Ano natsu ga houwa suru แปลไทย



あの夏が飽和する  
That Summer Saturates
"หน้าร้อนนั้นอัดแน่นอยู่ในหัว"




music : Kanzakiiori
vocal : Kagamine Rin - Len 

lyric:

「昨日人を殺したんだ」 
君はそう言っていた。 
梅雨時ずぶ濡れのまんま、 
部屋の前で泣いていた。 
"kinou hito o koroshitan da"
kimi wa sou itteita.
tsuyudoki zubunure no manma,
heya no mae de naiteita.
"ฉันฆ่าคนไปเมื่อวาน"
เธอพูดมาแบบนั้น
และร้องไห้อยู่ที่หน้าห้อง
ด้วยสภาพที่เปียกโชกจากสายฝน

夏が始まったばかりというのに、 
君はひどく震えていた。 
そんな話で始まる、
あの夏の日の記憶だ。
natsu ga hajimatta bakari to iu no ni,
kimi wa hidoku furueteita.
sonna hanashi de hajimaru. 
ano natsu no hi no kioku da.
ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มหน้าร้อนไปไม่นาน
แต่เธอกลับหนาวสั่นอย่างรุนแรง
เรื่องที่พูดไปตอนแรก  
ก็คือความทรงจำในหน้าร้อนวันนั้น

「殺したのは隣の席の、
いつも虐めてくるアイツ。 
もう嫌になって、肩を突き飛ばして、 
打ち所が悪かったんだ。 
"koroshita no wa tonari no seki no, 
itsumo ijimete kuru aitsu.
mou iya ni natte, kata o tsukitobashite,
uchidokoro ga warukattan da.
"คนที่ฉันฆ่า  คือไอ้บ้าข้างๆ
ที่มักจะมาแกล้งฉันเสมอ
เพราะว่าไม่ชอบ เลยผลักไหล่ออกจนตกลงไป
บาดแผลเขาดูร้ายแรงมาก

もうここには居られないと思うし、 
どっか遠いとこで死んでくるよ」 
そんな君に僕は言った。
「それじゃ僕も連れてって」
mou koko ni wa irarenai to omoushi,
dokka tooi toko de shinde kuru yo"
sonna kimi ni boku wa itta.
"sore ja boku mo tsurete tte"
เลยคิดว่าไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว
และอยากจะไปตายสักที่ที่ไกลๆ"
ผมจึงพูดกับเธอที่เป็นแบบนั้นว่า
"ถ้างั้นก็พาฉันไปด้วย"

 財布を持って、ナイフを持って、 
携帯ゲームもカバンに詰めて、 
いらないものは全部壊していこう。 
saifu o motte, naifu o motte,
keitai geemu mo kaban ni tsumete,
iranai mono wa zenbu, kowashite ikou.
หยิบกระเป๋าสตางค์ หยิบมีด
และเกมโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
ของที่ไม่จำเป็นก็ทำลายมันให้หมดเถอะ

あの写真も、あの日記も、 
今となっちゃもういらないさ。 
人殺しとダメ人間の
君と僕の旅だ。 
ano shashin mo, ano nikki mo,
ima to naccha mou iranai sa.
hitogoroshi to, dame ningen no 
kimi to boku no tabi da.
ทั้งภาพนั้น ทั้งไดอารี่
ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว
เป็นการเดินทางของผมและเธอ  
คนไร้ค่าและฆาตรกร

そして僕らは逃げ出した。 
この狭い狭いこの世界から。 
家族もクラスの奴らも
何もかも全部捨てて君と二人で。
 soshite bokura wa nigedashita.
kono semai semai kono sekai kara.
kazoku mo kurasu no yatsura mo 
nanimo kamo zenbu suttee kimi to futari de.
แล้วพวกเราก็หนีออกไป
จากโลกที่แคบแสนแคบใบนี้
ทั้งครอบครัว เพื่อนในชั้น 
ไม่ว่าอะไรก็ทิ้งไปเหลือเพียงแค่เราสองคน

遠い遠い誰もいない場所で二人で死のうよ。 
もうこの世界に価値などないよ。 
人殺しなんてそこら中湧いてるじゃんか。 
君は何も悪くないよ。君は何も悪くないよ。
tooi tooi daremo inai basho de futari de shinou yo.
mou kono sekai ni kachinado nai yo,
hitogoroshi nante sokorajuu waiteru jan ka.
kimi wa nani mo warukunai yo. kimi wa nani mo warukunai yo.
สถานที่ไกลแสนไกลไร้ซึ่งผู้คนนั้นเรามาตายด้วยกันดีกว่า
โลกใบนี้น่ะไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว
เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีฆาตรกรเต็มไปหมดไม่ใช่หรอ
เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย เธอไม่ได้ผิดเลย

結局僕ら誰にも
愛されたことなどなかったんだ。 
そんな嫌な共通点で
僕らは簡単に信じあってきた。
 kekkyoku bokura dare ni mo
aisareta koto nado nakattan da.
sonna iya na kyoutsuuten de
bokura wa kantan ni shinjiatte kita.
สุดท้ายแล้วพวกเรา
ก็ไม่ได้รับความรักจากใครเลย
ความรู้สึกไม่ดีที่เหมือนกันนั้น
ทำให้เราต่างเชื่อใจกันอย่างง่ายดาย

君の手を握った時、
微かな震えも既に無くなっていて 
誰にも縛られないで
二人線路の上を歩いた。 
kimi no te o nigitta toki 
kasuka na furue mo sude ni nakunatteite,
dare ni mo shibararenaide
futari, senro no ue o aruita.
ตอนที่จับมือกับเธอ 
อาการสั่นเล็กน้อยนั้นก็หายไป
พวกเราที่ไม่ได้ผูกมัดโดยใคร 
ก้าวเดินไปบนทางรถไฟ

金を盗んで、二人で逃げて、 
どこにも行ける気がしたんだ。 
今更怖いものは僕らにはなかったんだ。 
kane o nusunde, futari de nigete,
doko ni mo ikeru ki ga shitan da.
imasara kowai mono wa, bokura ni wa nakattan da.
ขโมยเงิน แล้วก็หนีไปกันสองคน
รู้สึกได้เลยว่าไม่ว่าที่ไหนก็สามารถไปได้
ป่านนี้แล้วพวกผมไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องหวาดกลัวอีกแล้ว

額の汗も、落ちたメガネも 
「今となっちゃどうでもいいさ。 
あぶれ者の小さな
逃避行の旅だ」
hitai no ase mo, ochita megane mo
"ima to naccha dou demo ii sa.
aburemono no, chiisa na
touhikou no tabi da"
ทั้งเหงื่อจากหน้าผาก  ทั้งแว่นที่ตก
"กลายเป็นแบบนี้แล้วจะยังไงก็ช่างเถอะ
เป็นการเดินทางหลบซ่อนตัว
ของเหล่าคนที่หาทางออกไม่ได้ไงล่ะ"

いつか夢見た優しくて、
誰にも好かれる主人公なら、 
汚くなった僕たちも見捨てずに
ちゃんと救ってくれるのかな? 
itsuka yumemita yasashikute,
dare ni mo sukareru shujinkou nara,
kitanakunatta bokutachi mo misutezu ni
chanto sukutte kureru no kana?
ได้แต่ฝันว่าสักวัน  
ถ้าเป็นฮีโร่ที่ได้รับความรักจากทุกคน
ก็คงจะช่วยพวกผมที่แปดเปื้อนเอาไว้
และไม่ทอดทิ้งไปหรือเปล่านะ

「そんな夢なら捨てたよ、
だって現実を見ろよ。 シアワセの
四文字なんてなかった、 今までの
人生で思い知ったじゃないか。 
"sonna yume nara suteta yo,
datte genjitsu o miro yo? shiawase no
yonmoji nante nakatta ima made no
jinsei de omoishitta janai ka.
"ฝันแบบนั้นน่ะฉันทิ้งไปแล้วล่ะ มองความเป็นจริงบ้าง
 'การมีความสุข' อะไรนั่นน่ะไม่ได้มีแค่สี่คำหรอกนะ
ทั้งชีวิตจนถึงตอนนี้ก็เข้าใจดีไม่ใช่หรือไง

自分は何も悪くねえと
誰もがきっと思ってる」
jibun wa nani mo warukunee to
dare mo ga kitto omotteru"
ไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่า
ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดอยู่แล้ว"

あてもなく彷徨う蝉の群れに、 
水も無くなり揺れ出す視界に、 
迫り狂う鬼たちの怒号に、 
バカみたいにはしゃぎあい ふと君は
ate mo naku samayou semi no mure ni,
mizu mo nakunari yuredasu shikai ni,
semarikuruu onitachi no dogou ni,
baka mitai ni hashagiai futo kimi wa
ฝูงจักจั่นบินร่อนเร่ไปมาอย่างไร้จุดหมาย
น้ำเริ่มหมดไป  วิสัยทัศน์เริ่มสั่นไหว
คลื่นลมแรงที่ราวกับเป็นฝีมือของพวกยักษ์
พวกเรามีความสุขกันราวกับคนบ้า

ナイフを取った。 
「君が今まで傍にいたから
ここまでこれたんだ。 
だからもういいよ。もういいよ」 
naifu o totta.
"kimi ga ima made soba ni ita
kara koko made koretan da.
dakara mou ii yo. mou ii yo.
ทันใดนั้นเธอก็หยิบมืดขึ้นมา
"นายน่ะช่วยอยู่ข้างๆฉันมาถึงตอนนี้
เพราะงั้นพอแค่นี้เถอะ  
เราหยุดกันแค่ตรงนี้กัน"

「死ぬのは私一人でいいよ」
shinu no wa watashi hitori de ii yo."
"คนที่ตายมีแค่ฉันคนเดียวก็พอ"

そして君は首を切った。 
まるで何かの映画のワンシーンだ。 
白昼夢を見ている気がした。 
気づけば僕は捕まって。
 soshite kimi wa kubi o kitta.
marude nanika no eiga no wanshiin da.
hakuchuumu o miteiru ki ga shita.
kizukeba boku wa tsukamatte.
แล้วเธอก็ปาดคอตัวเอง
ราวกับฉากในละครฉากหนึ่ง
เหมือนเป็นเพียงฝันกลางวัน
ในตอนที่ผมรู้สึกตัวก็พบว่า

君がどこにも見つからなくって。 
君だけがどこにもいなくって。
kimi ga doko ni mo mitsukaranakutte.
kimi dake ga doko ni mo inakutte.
ไม่ว่าที่ไหนก็หาเธอไม่เจอ
มีแค่เธอเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่แล้ว

そして時は過ぎていった。 
ただ暑い暑い日が過ぎてった。 
家族もクラスの奴らもいるのに 
なぜか君だけはどこにもいない。
soshite toki wa sugite itta.
tada atsui atsui hi ga sugitetta.
kazoku mo kurasu no yatsura mo iru no ni
naze ka kimidake wa doko ni mo inai.
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไป
แม้วันที่ร้อนแสนร้อนก็ผ่านเลยไป
ทั้งๆที่ครอบครัวและเพื่อนในชั้นยังอยู่แท้ๆ
แต่ทำไมมีเพียงเธอเท่านั้นที่หายไปกันนะ

あの夏の日を思い出す。 
僕は今も今でも歌ってる。 
君をずっと探しているんだ。 
君に言いたいことがあるんだ。
ano natsu no hi o omoidasu.
boku wa ima mo ima demo utatteru.
kimi o zutto sagashite irun da.
kimi ni iitai koto ga arun da.
แล้วก็นึกถึงวันในหน้าร้อนนั้น
ตัวผมนั้นตอนนี้ แม้แต่ตอนนี้เองก็ยังร้องเพลงอยู่
เพราะตามหาเธอมาโดยตลอด
เพราะมีเรื่องที่อยากบอกกับเธอ

九月の終わりにくしゃみして 
六月の匂いを繰り返す。 
君の笑顔は 君の無邪気さは 
頭の中を飽和している。 
kugatsu no owari ni kushami shite
rokugatsu no nioi o kurikaesu.
kimi no egao wa, kimi no mujakisa wa,
atama no naka o houwa shiteiru.
ตอนที่หมดเดือนกันยาก็จามออกมา
กลิ่นของเดือนมิถุนาวนมาอีกครั้ง
ใบหน้าเปื้อนยิ้มของ  เธอความบริสุทธิ์ของเธอ
ทั้งหมดวนเวียนในหัวเต็มไปหมด

誰も何も悪くないよ。 
君は何も悪くはないから 
もういいよ。 
投げ出してしまおう。
daremo nani mo warukunai yo.
kimi wa nani mo waruku wa nai kara,
mou ii yo, nagedashite shimaou.
ไม่มีใครผิดทั้งนั้น
เพราะเธอเองก็ไม่ได้ผิดไงล่ะ
พอสักที
ทิ้งไปให้หมดเถอะ

そう言って欲しかったのだろう? なあ?
sou itte hoshikatta no darou? naa?
ก็คงหวังที่จะได้ยินแบบนั้นใช่ไหมล่ะ? เนอะ?

------------------------------------------------------

ก็เปิดมาด้วยบทเพลงสุดตราตรึงใจเลยนะคะ 5555555555  ถ้าออกมาแนวโวคัลลอยด์นี่รู้เลยว่าโคโค่เองค่ะ  จริงๆในเพลงนี้เรารู้สึกได้ว่ามีอะไรแฝงอยู่เยอะ  เดี๋ยวจะแบ่งเป็นสองส่วนละกันค่ะเพื่อความเข้าใจง่าย

1. เนื้อเรื่องในเพลง ในความคิดเรานะคะ เรื่องมันจะเริ่มมาประมาณว่ารินเนี่ยมาบ่นกับเลนนะว่าฉันฆ่าคนไป ฉันอยากจะหนีแล้ว  ซึ่งคนๆนั้นคือเพื่อนร่วมห้องที่มักจะแกล้งรินเสมอ พอวันหนึ่งทนไม่ได้งี้เลยตอบโต้บ้างแต่ดันทำให้คนนั้นบาดเจ็บสาหัสซะงั้น  เลนที่ดูเหมือนจะเป็นพวก ‘นีท’ จึงได้ขอที่จะตามไปด้วย คือท่อนฮุกท่อนแรกเลนพูดประมาณว่ารินอ่ะไม่ได้ผิดอะไรเลย  คงจะบอกประมาณว่าเออมันก็แค่อุบัติเหตุอะไรงี้ แล้วเรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงท่อนที่รินปาดคอตัวเอง  เลนที่รู้สึกตัวก็แบบเสียใจที่ตอนนั้นช่วยรินเอาไว้ไม่ได้  ตรงนี้แหล่ะ มันมีท่อนที่ร้องว่า  “君の無邪気さはความบริสุทธิ์ของเธอ” จริงๆมันแปลได้ว่าความไร้เดียงสาของเธอ  แต่ที่เราแปลแบบนี้เพราะคิดว่า

คนที่แกล้งรินน่าจะไม่ตาย

คือก่อนหน้านี้มันจะมีท่อนที่ร้องว่า “家族もクラスの奴らもいるのに なぜか君だけはどこにもいない ทั้งๆที่ครอบครัวและเพื่อนในชั้นยังอยู่แท้ๆ  แต่ทำไมมีเพียงเธอเท่านั้นที่หายไปกันนะ”  คือคนๆนั้นคือคนที่นั่งข้างรินไง  พอมาคิดแบบนี้เลยเป็นเหตผลให้เลนแบบเสียใจมากงี้  ซึ่งจริงๆ มันอารมณ์แบบอัดแน่น อิ่มตัวไปด้วยความทรงจำในหน้าร้อนนั้น  แบบถ้าเลนบอกไปว่าให้ทิ้งทุกอย่างไปให้หมดซะเรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้นงี้(ทฤษฎีที่ 1)

2. สิ่งที่คันซากิน่าจะต้องการสื่อ คือทีแรกงงนะเพราะปกติเจ๊แกไม่น่าจะแต่งเพลงมาเพื่อระบายความนีทตัวเอง  เพราะเพลงอื่นแกมันแนวปลุกใจหมดเลย จนไปเกลากับตัวเองแหล่ะถึงรู้สึกว่า เหมือนเรื่องนี้มันแฝงนัยประมาณว่าเรื่องบางเรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด  หรือบางครั้งที่เราทำบางอย่างผิดพลาดไปด้วยความไม่ตั้งใจก็ปล่อยมันไปซะยังงี้ เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเลนต้องร้องแบบนั้นทั้งๆที่รินอ่ะตายไปแล้ว(ทฤษฎีที่ 2)  แล้วก็ทำไมถึงยังอยู่ตรงนั้นได้โดยไม่ฆ่าตัวตายตามไปงี้  นี่เดานะ  เหมือนเตือนสติคนฟังอ่ะรู้สึก

เจอกันใหม่คราวหน้า  หวังว่าเพลงจะลดดีดรีความดาร์กลงนะคะ 5555555

โคโค่











ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

自由に捕らわれる [jiyuu ni torawareru] ft.Miku แปลไทย

私がいるよ《Watashi Ga Iru Yo》- Chay [แปลเพลง]